วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ความแรงของเครื่องมือเรียงตามลำดับ

หลังจากใช้เครื่องมือหลายๆแบบมาพักใหญ่ ปัญหาอีกแบบที่ตามมาก็คือถ้าเครื่องมือบางอย่างขัดแย้งกันแล้วเราควรจะให้ความสำคัญกับเครื่องมือไหนมากกว่ากัน
เช่น ถ้า RSI เกิด divergence แล้วแต่ถ้าลาก trend line กราฟยังอยู่ใน down trend กราฟเริ่มกลับหัวขึ้นละเราควรเปิด Long ตามเลยมั้ย ลองดูตามรูป


 
จะเห็นได้ว่า RSI เกิด Divergence แล้วแต่ยังเป็น down trend อยู่กราฟก็ไม่ได้เปลี่ยนข้างแต่อย่างใดยังคงอยู่ใน trend เดิม ดังนั้นสรุปได้ว่าไม่มีอะไรแรงกว่า trend

แล้ว Overbought/Oversold ล่ะเชื่อได้แค่ไหน ถ้าเกิด Overbought แล้วเปิด Short เลยได้มั้ย ลองดูรูป

จากรูปในช่วงที่ RSI เกิด Overbought นั้นกราฟก็ยังขึ้นไปสูงได้ต่ออีกมากถ้ารีบเปิด Short คงกินแกลบแทนข้าว
ส่วน Candle Stick คงไม่พูดถึงเพราะใช้กับการเล่นสั้นๆไม่ได้ตาม trend ซึ่งถ้าตามนี้คงให้ความสำคัญกับ Candle Stick น้อยสุด

สรุป
Trend Line > Divergence > Overbought/Oversold > Candle Stick pattern

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

นักวิเคราะห์มันทำอะไรกัน

ขอบ่นหน่อย ดูมาหลายวันละ แต่ละวันเวลาตลาดเปิดหรือปิดนักวิเคราะห์จะออกมาบอกว่า

ถ้าร่วงจะบอกว่า "หุ้นไทยปิด/เปิดร่วง xx จุด เหตุกังวลน้ำท่วม-หนี้ยุโรป"
ถ้าขึ้นจะบอกว่า "หุ้นไทยปิด/เปิดบวก xx จุด คลายความกังวลน้ำท่วม-หนี้ยุโรป"

มันจะอะไรกันนักหนา มีสาเหตุให้หุ้นขึ้นหรือร่วงกันแค่นี้หรือไงหรือว่านึกอะไรไม่ออก เอะอะก็น้ำท่วม-หนี้ยุโรปทั้งๆที่ปัญหามันไม่ได้แก้ได้ภายในวันเดียว พรุ่งนี้ปัญหาเดิมๆมันก็ยังอยู่ไม่ได้หายไปไหนซะหน่อยทำไมมันทำอย่างกับว่าเด๋วแก้ได้ เด๋วแก้ไม่ได้ซะอย่างงั้น

วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กล้าได้ กล้าเสีย

เคยได้ยินว่าจะเล่นพนันหรือเก็งกำไรต้องกล้าได้กล้าเสีย เห็นแล้วว่าจริงทุกประการ แต่ไม่ใช่ว่ากล้าได้ กล้าเสียหมายถึงให้เอาเงินก้อนใหญ่ทุ่มลงไปโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่งั้นได้โดนม้าแดกหมดตัว (ถ้าเคยเล่นหมากรุก ม้านี่แสบมาก แสบกว่าเรือเยอะ เรือแค่เป็นโล่ห์ เป็นกำแพงกั้นไม่ให้เราเดินผ่าน แต่ม้านี่เป็นหอกเป็นดาบ โดดข้ามกำแพงมาแทงกรูเรย)

กล้าได้ กล้าเสีย ในที่นี้ถ้าพูดถึงการเก็งกำไรน่าจะหมายถึง กล้า(ได้)ที่จะ let profit run ต้องใจแข็งมากๆ เห็นกำไรแล้วไม่ยอมคว้าไว้ เพราะถ้าเก็งผิดทาง กำไรที่เห็นตรงหน้าอาจกลับเป็นขาดทุนให้ต้องเจ็บใจได้เสมอ กล้า(เสีย) กล้าที่จะยอมเสียเงิน cut loss ถ้าผิดทาง อันนี้ยากกว่ากล้าได้ซะอีก ส่วนมากจะไม่กล้าเสีย ปล่อยขาดทุนไปไกลก่อน ถึงจะ cut loss ทั้งน้ำตาแล้วก็บ่นรู้งี้กรูคัทตั้งนานแล้ว

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทดสอบสมมุติฐานและระบบ

สมมุติฐาน
Trend ใหญ่ๆจะไม่หายไปในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นสามารถเปิด long/short ด้วยจำนวน lot เล็กๆเพื่อทดสอบตลาดก่อนได้ จากนั้นเมื่อ RSI วนมาอีกรอบค่อยตามอีก lot และปิดสถานะเมื่อกราฟนั้นทะลุ trend line อีกครั้งเป็นอันหมดรอบ

การทดสอบ
1. เพื่อความรวดเร็ว ดู trend ใหญ่ที่กราฟ 4h แล้วเล่นที่กราฟ 1h หาสัญญาณเข้าที่กราฟ 15m
2. เมื่อกราฟทะลุ trend line ของกราฟ 1h หมายถึงให้สัญญาณเปลี่ยน trend
3. เปิดสถานะ short/long ครั้งแรกเมื่อ zigzag ทะลุ higher high/lower low
4. รอ RSI ที่กราฟ 1h วนรอบแรก แล้วลาก trend line ถ้ากราฟทะลุ trend line นี้ถือเป็นสัญญาณปิดสถานะ
ให้ปิดสถานะที่เปิดไว้ทั้งหมดในครั้งเดียว
5. ทุกครั้งที่ RSI วนรอบในกราฟ 1h ให้ลาก trend line ใหม่ถ้าจำเป็น
6. ทุกครั้งที่ีกราฟดีดมาโดน trend line แต่ไม่ทะลุให้เปิดสถานะเพิ่ม
7. กลับไปทำข้อ 4 อีกครั้ง

ผลการทดสอบ
วันที่เริ่มเปิดสถานะ :                      Oct 5, 2011
คู่เงิน :                                            AUD/USD
lot ที่เปิดทั้งหมด                            0.02
วันที่ปิดสถานะทั้งหมด                  Oct 7, 2011
กำไร/ขาดทุนเมื่อจบรอบใหญ่       229.9 + 91.0 = 320.9 pip

ปัญหาที่พบ
ใจ อยู่ใจอย่างเดียว ต้องทนให้ได้ แม้จะเห็นราคาตกลงมาแต่ยังไม่เกินเส้น TL ก็ต้องทนให้ได้ เป็นประสบการณ์ที่ดี ถ้าทนไม่ได้ปิดสถานะไปก่อนคงได้มาแค่ 100++ เท่านั้น

สรุป
แค่รอบนี้รอบเดียวก็ตีคืนที่เสียยิบย่อยไปได้ทั้งหมด พิสูจน์ได้แล้วว่าถ้าเจอ trend ต้องเกาะ trend ไปให้ถึงที่สุด

ข้อคิด
ไม่มีวิธีการอะไรที่จะเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์ คือได้กำไรอย่างเดียวไม่มีผิดพลาด ต้องยอมรับความผิดพลาดนั้นให้ได้เร็วแต่รู้ตัวว่าจะต้องแก้ไขเมื่อไหร่ และวิธีการใช้ TL นี้ไม่มีทางได้ maximum profit เพราะกราฟเคยขึ้นไปสูงถึง 450++ pip แต่ตามระบบยังไม่ปิดสถานะจนกว่าจะตกมาทะลุ TL แต่อย่างที่บอกถ้าไม่ยึดกฏนี้คงขายหมูไปตั้งแต่เห็นราคาวิ่งไปได้ 100++ แล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

สรุปเครื่องมือที่มีและการใช้งาน

สรุปเครื่องมือที่มีและการใช้งาน

RSI ใช้สำหรับดู divergence เท่านั้น ห้ามใช้เป็นตัว ticker เด็ดขาด
MACD ใช้สำหรับดู divergence และใช้ดู trend ในระยะสั้น ไม่ใช้เป็น ticker เหมือนกัน
ADX ใช้สำหรับดูความแรงของ trend และใช้เลี่ยง sideway
Zigzag ใช้เป็นตัวกำหนดจุดเข้าซื้อหรือขาย ใช้ดู higher high/lower low เป็นหลัก

Trend line ใช้สำหรับดูแนวโน้มใหญ่ๆและใช้เป็นตัว ticker ซื้อขายตามการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มใหญ่ ถ้ายังไม่หลุดแนวโน้ม ให้ซื้อขายโดยอิงกับแนวโน้มใหญ่เป็นหลัก

ใช้แค่นี้แหละ ทำให้ได้กำไรซักหน่อยเหอะนะ

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เล่น Forex ยังไม่เข็ดอีกเรอะ ภาค4

ในที่สุดก็ต้องยอมรับความจริงว่าเล่น Forex มันไม่ง่าย เล่นเงินจริงมันเสียวกว่าเงินปลอมเยอะ
.
.
.

โดนล้างพอร์ตเป็นครั้งแรก     m(_ _)m     เป็นประสบการณ์ที่ดีที่ไม่อยากเจออีก
ปัญหาที่เจอตอนนี้คือระบบที่ใช้ (ทะลุแนวต้านแล้วตาม) บางครั้งมันทะลุแล้วมีแรงขายหรือซื้อสวนขึ้นมา แต่พอร์ตเราเล็กทำให้ทนขาดทุนได้ไม่นานเจอ Stop loss ซะก่อน พอโดนปั๊บลงไปอีกหน่อยก็เด้งขึ้นตามระบบ ทีนี้โดนหลายครั้งเข้าทำให้กำไรที่ได้ไม่พอโปะขาดทุน ก็โดนปิดพอร์ตไปตามระเบียบ หรือบางครั้งเพราะพอร์ตเล็ก ต้องตั้ง Stop loss ไว้ใกล้เกินไปทำให้โดน Stop loss ก่อน ยิ่งถ้าเป็น side way นี่ยิ่งหนัก เพราะตั้งดัก 2 ทาง มันก็โดน SL ทั้งสองทาง ขาดทุนเบิ้ลไปเลย

แต่ก็ยังไม่เข็ด คราวนี้ขอเปิด Micro account ละกันจะได้ทน Drawdown ได้นานหน่อย

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เล่น Forex ยังไม่เข็ดอีกเรอะ ภาค3

- มองหาเทรน ดูเทรนให้เข้าใจ เล่นตามเทรน
- ถ้าจับเทรนได้ก็ไปให้สุดเทรน
- 10% แรกกับสุดท้ายปล่อยให้คนอื่นไป


ทำให้ได้ซักครั้งเหอะ