วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เตือนใจ

- อย่าพยากรณ์อนาคต ให้อยู่กับปัจจุบัน เช่นวันนี้หุ้นลงแรงแต่ RSI ยังไม่ Overbought เลย ถ้ามันถึง Stop lose เราก็ต้องขายทิ้ง อย่าไปคิดว่าเฮ้ย...อีก 2-3 วันค่อยขายก็ได้ ยังงี้ไม่ได้หมดตัวแน่

- ของดีต้องแพง หมายถึงหุ้นดี ราคาไม่มีต่ำอยู่แล้ว ไม่ใช่เราคนเดียวที่จะเห็นว่ามันดี คนอื่นๆก็เห็นเหมือนกัน แล้วพวกนั้นเค้าก็ไปซื้อสะสมกันแล้ว ถ้าหุ้นจะขึ้นไม่มีทางที่มันจะต่ำเตี้ยเรี่ยดินได้นาน

- ตาม Trend ใหญ่และTrend จะมีจนกว่ามันจะหมดลง หมายถึงจะเล่นให้ดู Trend ใหญ่ด้วย เล่นฝืน Trend มันยากเหนื่อยด้วย เช่นถ้า trend มันขึ้นถึงจะเจอแนวต้าน ชาวบ้านเค้าบอกว่าระวัง double top ก็ฟังไว้แต่ให้คิดไว้ว่าถ้ากราฟมันยังไม่หักหัวลง มันก็ยังไม่เปลี่ยน trend แต่มันจะพุ่งทะลุแนวต้านไปได้ ถ้าเจอแบบนี้ก็เข้าได้ อย่าไปกลัว

- หุ้นไม่มีถูกแพง มีแต่ขึ้นหรือลง ถ้าหุ้นมันจะขึ้นถึงแพงก็ต้องซื้อ การดู PE ว่าหุ้นแพงถูกนั้นไม่อยากบอกว่ามันดูยากเพราะเราไม่รู้ว่าผู้บริหารบอกความจริงเราหรือเปล่า หรือบอกหมดหรือเปล่า ไม่อยากบอกว่าเมื่อก่อนทำงานบริษัทมหาชน Finance เคยมาขอให้ upload ไฟล์ 2 ตัว ตัวนึงขึ้น intranet ให้ผู้บริหารดู อีกตัวขึ้น internet ให้นักลงทุนทั่วไปดู ชื่อไฟล์เหมือนกัน แต่ข้อมูลข้างในไม่เหมือนกัน อืม....น่าคิดเนาะ

- อย่าเอา Indicator นำราคา หมายถึงการตัดสินใจต้องใช้ราคา ณ.ปัจจุบันเสมอ อย่ามองแต่ indicator เพราะ indicator เอาข้อมูลอดีตมาพยากรณ์อนาคต ให้ใช้ indicator ในการช่วย confirm ว่าที่เราคิดนั้นถูกต้องเช่นราคาเริ่มลงแล้วเราก็ดู indicator ว่าอ้อ RSI overbought แล้วนะเกิด divergence แล้วด้วย อย่างงี้ก็ควรขายได้ ไม่ใช่ว่าราคายังไม่ผงกหัวลงเลย แต่ดู RSI ว่า overbought แล้วเกิด divergence แล้วรีบขายซะก่อน กลัวจะลงอย่างนี้ไม่ได้เพราะราคามันอาจไม่ลงก็ได้

- อย่าโลภพยายามขายที่จุดสูงสุด ซื้อที่จุดต่ำสุด ถามจริงตั้งกะเล่นมาทำได้กี่ครั้ง บางคนทำไม่ได้เลย ฉะนั้นอย่าพยายามไปทำอะไรยากๆแบบนั้น โลภน้อยหน่อย ซื้อตอนราคามันเริ่มกลับตัวแล้ว กะขายตอนราคามันเริ่มผงกหัวลงแบบนี้ปลอดภัยกว่า โอกาสทำได้มากกว่า โอกาสขายหมูก็น้อยกว่า

- อย่ารีบเข้าไปรับมีดตอนราคามันลง รอมันนิ่งๆก่อนค่อยเข้าไปเก็บ แทนที่จะถัวเฉลี่ยขาลง สู้พอมันถึงพื้นแล้วเข้าไปกวาด ต้นทุนเราจะถูกกว่าเยอะ

- โลภได้เท่าความรู้ที่มี เช่นไม่รู้ว่าหุ้นตัวนี้ขึ้นเพราะอะไร สัญญาณอะไรก็ไม่มีซักอย่างแต่อยู่ๆมันก็ขึ้นอย่างงี้ก็ปล่อยมันไปเหอะ สัญญาณขึ้นยังไม่มีแล้วสัญญาณลงมันจะมีได้ไง โดดตามเข้าไปโอกาสอยู่ดอยก็มีสูง

- หุ้นที่จะขึ้นมันต้องทำ New high(จุดสูงสุดใหม่) และ Higher low(จุดต่ำสุดสูงขึ้นเรื่อยๆ)
- หุ้นที่จะลงมันต้องทำ New low(จุดต่ำสุดใหม่) และ Lower low(จุดต่ำสุดต่ำลงเรื่อยๆ)

- อย่าปล่อยให้หุ้นที่ได้กำไรเปลี่ยนมาเป็นขาดทุน ตั้งจุด stop lose ที่เหมาะสม ถ้าลงมาโดนก็ออกเลย อย่าไปหวังลมๆแล้งๆว่ามันจะกลับมาขึ้น อย่าโลภมากอยากให้มันเด้งไปจุดเดิมก่อนค่อยขาย

- เล่นหุ้นให้สบายใจต้องเล่นแบบมี Stop loss เล่นแบบไม่โลภ การเล่นหุ้นเป็นเกมส์จิตวิทยา และสำคัญที่สุดโลภมากลาภหาย

- ไม่มีการ Take profit มีแต่ Let profits run เรามี Stop loss แล้วไง ก็ปล่อยกำไรมันวิ่งไปดิ ถ้ามันเปลี่ยน trend ราคามันก็ร่วงมาโดน stop loss เองล่ะ อย่าโลภมันจะกลายเป็นขายหมู

- คนฉลาดมักประสบความสำเร็จจากตลาดหุ้นเป็นคนสุดท้าย เพราะว่าคนฉลาด IQ สูงความคิดเป็นระเบียบและคิดในเชิงตรรกะ หมายถึงการจะทำอะไรมักมองเห็นหรือคาดหมายสิ่งที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าได้ เช่นถ้าให้ตัวเลข 1, 2, 3, X ถามว่า X คืออะไร คนที่มีตรรกะก็ไม่ต้องคิดเลยว่า X คือ 4 แต่แบบนั้นมันเอามาใช้กับตลาดไม่ได้ เคล็ดลับคืออย่าพยายามเดาตลาด มันเป็นไงก็ตามนั้น ทำตามปัจจุบันไปเรื่อยๆ

- ตลาดหุ้นเป็นตลาดที่รวมความคาดหวังของคนไว้ ราคาจะเป็นไปตามความคาดหวังของคนหมู่มาก คิดสวนตลาดก็แปลว่าคิดไม่เหมือนคนอื่น ถ้ายังไม่เก่งก็คิดตามๆกันไปนั่นแหละ ได้ตัง อย่าไปหวังชนะตลาด ยอมตามไปแล้วได้เงินดีกว่า

1 ความคิดเห็น: